ปลัดคลังแจงตั้งงบขาดดุลเคลื่อนเศรษฐกิจโต ชี้ไม่กระทบหนี้สาธารณะ-เงินคงคลัง คาดปีงบ’65 เก็บรายได้ตามเป้า 2.4 ล้านล้านบาท พร้อมส่งสัญญาณถึง ธปท. นโยบายการเงินควรมาช่วยนโยบายการคลังช่วงวิกฤต
วันที่ 8 เมษายน 2565 นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กรณีที่อดีตผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุถึงการทำงบประมาณขาดดุลอย่างต่อเนื่องและยาวนานของรัฐบาลว่า ตลอด 40 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีการทำงบประมาณขาดดุลมาโดยตลอด มีเพียงแค่ 2 ครั้ง ที่สามารถทำงบประมาณสมดุลได้ เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่กำลังพัฒนา จึงจำเป็นที่ต้องมีการลงทุนโครงสร้าง เพื่อให้เศรษฐกิจเจริญเติบโต ดังนั้นตราบใดที่เป้าหมายตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องการให้เติบโต เราก็ต้องมีงบลงทุน ดังนั้นจึงเป็นนโยบายเพื่อให้เศรษฐกิจโตขึ้น ซึ่งก็คือนโยบายขาดดุลที่รัฐบาลได้ดำเนินการมาโดยตลอด
ขณะเดียวกันตัวเลขหนี้สาธารณะของไทยก็ยังอยู่ในระดับที่สามารถบริหารจัดการได้ ยังไม่ถึง 70% ตามกรอบเพดานที่ได้ขยายไว้ ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ในกรอบ เพราะฉะนั้นยังมีรูมที่สามารถดำเนินการได้ และเงินคงคลังก็ไม่มีปัญหา โดยปัจจุบันมีเงินคงคลังต้นงวดอยู่ประมาณ 580,000 ล้านบาท และคาดว่าปิดปลายงวดจะสามารถจัดเก็บรายได้ได้ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 2.4 ล้านล้านบาท ซึ่งก็จะทำให้เงินคงคลังปลายงวดใกล้เคียงที่ 5 แสนกว่าล้านบาท
“ในช่วงวิกฤตนโยบายการเงินก็ควรมาช่วยนโยบายการคลังในการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ส่วนในปัจจุบันนโยบายการเงินจะต้องทำอะไรเพิ่มอีกหรือไม่นั้น ไม่ขอพูด แต่ก็ถือเป็นการส่งสัญญาณเล็กๆไปถึง ธปท.”
อ้างอิง
https://www.prachachat.net/finance